ยุวธรรมทูตโรงเรียนดรุณานุเคราห์
           “คุณครูศรสิทธิ์ อิ่มรุ่งเรือง” ผู้รับผิดชอบยุวธรรมทูตประจำโรงเรียนดรุณานุเคราะห์ ได้แบ่งปันประสบการณ์การทำงานยุวธรรมทูตในปีที่ผ่านมานี้ให้กับที่ประชุมผู้รับผิดชอบในวันที่ 24 กรกฎาคม 2553 ณ ห้องประชุมบอสโก ราชบุรี จึงขอสรุปสาระสำคัญมาแบ่งปันกันอีกต่อหนึ่ง

การเริ่มต้น
             กลุ่มยุวธรรมทูตโรงเรียนดรุณานุเคราะห์ เริ่มเมื่อ 2 ปีที่แล้วจากการที่ศูนย์คริสตศาสนธรรมราบุรีได้จัดให้ครูและนักเรียนโรงเรียนต่างๆในสังฆมณฑลราชบุรีได้รู้จักองค์กรยุวธรรมทูตและการจัดการฝึกอบรม หลังจากนั้นก็ได้เริ่มจัดตั้งกลุ่มยุวธรรมทูตขึ้น โดยมีซิสเตอร์จีรนันท์ เป็นผู้ให้การสนับสนุนอย่างเข้มแข็ง

เป้าหมายในการจัดตั้งกลุ่ม
            เนื่องจากโรงเรียนของเรามีเด็กคาทอลิกจำนวนพอสมควร และเป็นโรงเรียนเก่าแก่ของสังฆมณฑล ทางโรงเรียนจัดให้มีการสอนคำสอนอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว แต่เห็นว่าเรื่องของการแพร่ธรรมหรือการประกาศข่าวดีให้กับนักเรียนศาสนาอื่นๆที่อยู่ในโรงเรียนของเรานั้นยังไม่ค่อยมีกิจกรรมอะไรมากนัก จึงตั้งเป้าหมายว่า นักเรียนที่จบการศึกษาจากโรงเรียนฯจะต้องรู้จักศาสนาคริสต์และสามารถบอกเล่าเรื่องของศาสนาคริสต์ได้

วิธีการอบรมเด็กยุวธรรมทูต
           ได้เชิญครูคำสอนจากศูนย์คริสตศาสนธรรมราชบุรีมาให้ความรู้กับเด็กๆของเรา และฝึกการประชุมกลุ่มย่อย โดยให้พี่ๆนักเรียนชั้นมัธยมปีที่ 3 เป็นผู้นำ เราจัดประชุมสองสัปดาห์ต่อครั้งในตอนเช้า ใช้เวลาประมาณ 45 นาที เมื่อเด็กมาพร้อมกันแล้วเราเริ่มต้นด้วยการสวดภาวนา อ่านพระคัมภีร์ แบ่งปันพระวาจาที่ประทับใจ ฉายวีซีดีเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ แล้วให้เด็กๆบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือเด็กที่ยากจนกว่า โดยใส่กระปุ๊กออมสินไว้ก่อน จากนั้นให้เด็กๆหาข้อตั้งใจเพื่อนไปปฏิบัติโดยเขียนลงในสมุด เช่น ชวนเพื่อนมาดูการ์ตูนพระคัมภีร์ในห้องจริยฯ พาเพื่อมาเฝ้าศีลฯ พาเพื่อนเข้าไปชมวัด สอนเพื่อนสวดภาวนาฯลฯ จากนั้นอีกสองสัปดาห์เรามาพบกันอีกเพื่อรายงานการทำงานที่ได้ตั้งใจไว้ แล้วก็ฟังพระวาจาตอนใหม่ เล่นเกมส์ ร้องเพลง แล้วหาข้อปฏิบัติที่เกี่ยวกับการบอกเล่าเรื่องพระเยซูเจ้าให้เพื่อนฟัง

กิจกรรมที่น่าสนใจ
            คณะครูคาทอลิกของโรงเรียนเป็นคุณครูที่มีความศรัทธาอยู่แล้ว ในทุกปีเราจัดสัปดาห์พระคัมภีร์ในเดือนธันวาฯ โดยจัดให้เด็กๆทุกชั้นได้ผลัดเปลี่ยนกันมาทำกิจกรรมเกี่ยวกับพระคัมภีร์โดยมีศูนย์คริสตศาสนธรรมราชบุรีมาช่วยดำเนินการให้ ซึ่งได้ผลดีทำให้เด็กๆของเราได้รู้จักศาสนาของเราดีขึ้น

             อีกกิจกรรมหนึ่งที่คณะครูคาทอลิกได้ช่วยกันทำ คือ การฝึกเด็กๆของเราให้อ่านพระคัมภีร์แล้วให้ออกไปพูดหน้าเสาธงในตอนเข้าแถวเวลาเช้าว่าพระคัมภีร์ในวันนี้สอนเราเรื่องอะไร แล้วให้จดไว้บนกระดานดำของทุกห้อง บางห้องมีแผ่นพระวาจาให้เด็กๆได้หยิบแล้วอ่านเพื่อเป็นคติธรรมประจำวัดด้วย

            ในปีนี้ตั้งใจจะพาเด็กๆออกไปสัมผัสชีวิต เพื่อเรียนรู้จากของจริง เป็นต้นให้เห็นเด็กๆที่มีความยากลำบากในชีวิตมากกว่าเรา เพื่อจะได้เกิดแรงบันดาลใจที่จะช่วยเหลือผู้อื่น คิดถึงผู้อื่นมากขึ้น เพราะเด็กๆปัจจุบันไม่ค่อยคิดถึงคนอื่นมากนัก

ข้อคิดที่ฝากไว้
              ในการฝึกอบรมเด็กนั้นเราต้องทำแบบตอกย้ำไปเรื่อยๆ ทำซ้ำๆ ทำบ่อยๆ เพราะเด็กๆมักจะลืมอะไรอย่างรวดเร็ว การสร้างจิตตารมณ์ธรรมทูตก็เช่นกัน เราต้องทำอย่างสม่ำเสมอและต้องทำตั้งแต่วัยเด็ก เหมือนอย่างที่พ่อแม่พาเรามาวัด พามาทุกอาทิตย์จนเราคุ้นเคยกับการมาวัด