“ใจที่เร่าร้อนเป็นไฟ เท้าต้องก้าวเดินไป" (เทียบ ลก 24:13-35) ....สารวันแพร่ธรรม ปี 2023....

แขกรับเชิญที่อ่อนหวานของวิญญาณเตรียมจิตใจสมโภชพระจิตเจ้า 7
แขกรับเชิญที่อ่อนหวานของวิญญาณ

การประทับอยู่ของพระเจ้า
         ข้าแต่พระจิตเจ้า พระองค์ทรงถ่อมพระองค์ลงมาประทับอยู่ในข้าพเจ้า โปรดทรงช่วยเปิดวิญญาณของข้าพเจ้าอย่างเต็มที่ต่อการกระทำของพระองค์

ข้อรำพึงไตร่ตรอง

        1. สมณสาส์น Mystici Corporis กล่าวว่า "พระจิตเจ้า คือวิญญาณของพระศาสนจักร" เนื่องจากวิญญาณหมายถึง "หลักของชีวิต" ข้อความนี้กล่าวในทำนองเดียวกันว่าพระผู้บรรเทาของพระเจ้าคือผู้ให้ชีวิตแก่พระศาสนจักร เนื่องจากวิญญาณเป็นหลักของชีวิตในร่างกาย ดังนั้นพระจิตเจ้าจึงเป็นหลักของชีวิตในพระศาสนจักร ซึ่งเป็นพระกายทิพย์ของพระคริสตเจ้า (เทียบ Divinum Illud) เราได้เห็นแล้วว่าพระจิตสถิตอยู่ในวิญญาณของพระคริสตเจ้า เพื่อทรงนำพระองค์ในการบรรลุผลสำเร็จของพันธกิจในการไถ่กู้ของพระองค์ พระเยซูเจ้าทรงสามารถดำเนินพันธกิจนี้โดยลำพัง แต่พระองค์ทรงพระประสงค์ให้พระศาสนจักรมีส่วนร่วมในพันธกิจนี้ เนื่องจากพระศาสนจักรยังคงทำงานของพระคริสตเจ้าต่อไป พระศาสนจักรจึงต้องการแรงผลักดันแบบเดียวกันซึ่งนำทางวิญญาณของพระองค์ พระศาสนจักรต้องการพระจิตเจ้า พระเยซูเจ้าได้รับพระจิตของพระองค์เพื่อเราบนไม้กางเขน โดยการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ พระองค์ทรงชดเชยบาปทุกประการ ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการทำงานของพระจิตเจ้า และเมื่อพระองค์เสด็จขึ้นสู่สวรรค์ พระองค์ทรงส่งพระจิตไปยังอัครสาวก ซึ่งเป็นตัวแทนของพระศาสนจักรทั้งมวล บัดนี้ พระองค์ทรงประทับอยู่ในพระสิริรุ่งโรจน์ ณ พระหัตถ์ขวาของพระบิดา พระองค์ทรงวิงวอนเพื่อเราอย่างต่อเนื่อง ทรงส่งพระจิตเจ้ามายังพระศาสนจักรอยู่เสมอ ดังที่พระองค์ทรงสัญญาไว้ ตอนนี้พระจิตเจ้าทรงทำงานในพระศาสนจักร เช่นเดียวกับที่ครั้งหนึ่งพระองค์ทรงกระทำในวิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์ของพระคริสตเจ้า พระองค์ทรงดลใจพระศาสนจักร ดำเนินการในพระศาสนจักร และผลักดันพระศาสนจักรให้บรรลุตามพระประสงค์ของพระเจ้า ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้พระศาสนจักรสามารถบรรลุพันธกิจของพระองค์ได้ ซึ่งดำเนินต่อไปตลอดยุคแห่งงานไถ่กู้ของพระคริสตเจ้า ด้วยเหตุนี้ บรรดาปิตาจารย์ในสมัยแรกจึงเรียกพระจิตเจ้าว่า วิญญาณของพระศาสนจักร พระศาสนจักรเองเรียกพระองค์ในบทยืนยันความเชื่อว่า "Dominum et vivificantem!" พระเจ้าและผู้ให้ชีวิต เมื่อวิญญาณให้ชีวิตแก่ร่างกาย พระจิตให้ชีวิตแก่พระศาสนจักร พระองค์ทรงเป็นแรงดลใจแห่งความรักที่จุดประกายความกระตือรือร้นของพระศาสนจักรเพื่อพระสิริรุ่งโรจน์ของพระเจ้าและความรอดพ้นของวิญญาณ พระองค์ประทานแสงสว่างและความเข้มแข็งแก่ผู้เลี้ยงแกะของพระศาสนจักร ประทานความกระตือรือร้นและพลังงานแก่ธรรมทูตของพระศาสนจักร ความกล้าหาญและความเชื่อที่ไม่เปลี่ยนแปลงแก่บรรดามรณสักขีของพระศาสนจักร

         2. เนื่องจากพระศาสนจักรเป็น "สังคม" ของประชาสัตบุรุษ จึงประกอบด้วยการรวมกันของพวกเขา คือบรรดาสัตบุรุษ ผู้ก่อให้เกิดเป็นพระศาสนจักร ดังนั้น การกล่าวว่าพระเยซูเจ้าทรงสมควรได้รับพระจิตเจ้าสำหรับพระศาสนจักรของพระองค์ ก็เท่ากับการกล่าวว่าพระองค์ทรงสมควรได้รับพระจิตเจ้าเพื่อเรา การกล่าวว่าพระเยซูเจ้าร่วมกับพระบิดาทรงส่งและยังคงส่งพระจิตเจ้าของพระองค์มายังพระศาสนจักร เท่ากับเป็นการยืนยันว่าพระองค์ได้ส่งและยังคงส่งพระจิตเจ้ามาหาเรา สมณสาส์น Mystici Corporis ยืนยันว่า พระจิต "ได้รับการถ่ายทอดให้กับพระศาสนจักรอย่างล้นเหลือ เพื่อที่พระศาสนจักรและสมาชิกแต่ละคนจะกลายเป็นเหมือนพระผู้ไถ่กู้ของเรามากขึ้นทุกวัน" ด้วยเหตุนี้ พระจิตเจ้าจึงทรงใช้อิทธิพลของพระองค์ ไม่เพียงแต่ในร่างกายของพระศาสนจักรเท่านั้น แต่ยังอยู่ในวิญญาณแต่ละดวงที่พระองค์ทรงประทับอยู่ในฐานะ “แขกรับเชิญผู้อ่อนหวาน” พระองค์ทรงอยู่ในเรา เพื่อครอบครองวิญญาณของเรา ทำให้วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ หล่อหลอมพวกเขาให้เป็นเหมือนพระคริสตเจ้า และเร่งเร้าเราให้ดำเนินพันธกิจการไถ่กู้ของพระองค์ต่อไป พระองค์ทรงเป็นแรงดลใจแห่งความรักที่กระตุ้นให้เราทำตามพระประสงค์ของพระเจ้า นำเราไปสู่การถวายพระสิริรุ่งโรจน์แด่พระตรีเอกภาพ และนำเราไปหาพระเจ้า แต่ถ้าพระจิตเจ้าเป็นแรงกระตุ้นแห่งความรักที่เข้ามาในตัวเราเพื่อชำระเราให้บริสุทธิ์และนำเราไปหาพระเจ้า ทำไมเราทุกคนไม่เป็นนักบุญ? ธรรมล้ำลึกของความรับผิดชอบของมนุษย์อยู่ตรงนี้ พระจิตเจ้า พร้อมกับพระบิดาและพระบุตร ทรงสร้างเราให้เป็นอิสระ และพระองค์ทรงประสงค์ให้เราเป็นเช่นนั้น ดังนั้นการเสด็จมาหาเรา พระองค์ทรงเคารพในเสรีภาพของเราและไม่ทรงใช้ความรุนแรง แม้ว่าพระองค์ทรงกระหายที่จะเข้าไปในวิญญาณของเราและครอบครอง พระองค์จะไม่ทรงกระทำเช่นนั้นเว้นแต่เราจะให้พระองค์เข้าถึงโดยเสรี เป็นตัวอย่างของหลักการสำคัญซึ่งนักบุญเทเรซา แห่ง พระกุมารเยซู ยืนกรานว่า “พระเจ้าไม่ทรงบังคับใคร พระองค์ทรงรับสิ่งที่เราให้ แต่พระองค์ไม่ได้ประทานพระองค์เองทั้งหมดแก่เรา จนกว่าเราจะถวายตนเองทั้งหมดแด่พระองค์" (หนังสือหนทางฯ ข้อ 28) ถ้าเราไม่ได้เป็นนักบุญ ไม่ใช่เพราะพระจิตไม่ทรงปรารถนา  พระองค์ถูกส่งมาหาเราและมาหาเราเพื่อจุดประสงค์นี้ แต่เป็นเพราะเราไม่ให้เสรีภาพอย่างเต็มที่ในการกระทำของพระองค์ นี่คือจุดที่เราล้มเหลว เราไม่ได้ใช้เสรีภาพของเราเพื่อยอมมอบวิญญาณของเราทั้งหมดให้กับการโอนอ่อนต่อพระอานุภาพอันเปี่ยมด้วยความรักของพระองค์ หากเรามีน้ำใจที่จะเปิดประตูให้กว้าง พระจิตจะนำเราไปภายใต้การนำทางของพระองค์ และด้วยความช่วยเหลือของพระองค์ เราจะกลายเป็นนักบุญ

 

LINKS

www.ppoomm.v

http://www.catholicmission.org.au/http://www.missionsocieties.ca/www.pms-phil.orgwww.missio.org.mthttp://www.obrasmisionalespontificias.es/คณะธรรมทูตไทย

สถิติการเยี่ยมชม

14522674
Today
Yesterday
This Week
This Month
All days
569
426
1708
7696
14522674
Your IP: 18.206.76.45
2024-03-29 15:51