“ใจที่เร่าร้อนเป็นไฟ เท้าต้องก้าวเดินไป" (เทียบ ลก 24:13-35) ....สารวันแพร่ธรรม ปี 2023....

พระนางมารีย์และความรักเมตตาฉันพี่น้องเตรียมจิตใจสมโภชพระจิตเจ้า 3
พระนางมารีย์และความรักเมตตาฉันพี่น้อง

การประทับอยู่ของพระเจ้า
          ข้าแต่พระแม่มารีย์ ความรักที่พระแม่ทรงมีต่อมนุษย์นั้นใหญ่ยิ่งนัก โปรดสอนข้าพเจ้าถึงวิธีปฏิบัติตามคำสั่งสอนของความรักเมตตาฉันพี่น้องได้อย่างสมบูรณ์ด้วยเถิด

ข้อรำพึงไตร่ตรอง

          1. ความรักเมตตาเป็นหนึ่งเดียวโดยแก่นแท้ของตัวมันเอง เพราะความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเป็นความจริงสากล พระเจ้าทรงรักในพระองค์เอง พระเจ้าทรงรักในเพื่อนบ้าน ดังนั้น ยิ่งจิตวิญญาณรักพระเจ้ามากเท่าใด จิตวิญญาณก็ยิ่งรักเพื่อนบ้านมากเท่านั้น ตอนนี้ถ้าความรักที่มีต่อพระเจ้าถึงจุดยอดสุดในพระนางมารีย์ เราต้องพูดด้วยว่าความรักเมตตาที่พระนางมีต่อเพื่อนบ้านนั้นไม่มีขอบเขต นี่คือคุณสมบัติเฉพาะของความรักแท้ของพระเจ้า ห่างไกลจากความคับแคบทางจิตวิญญาณของผู้ที่ครอบครอง ความรักเมตตาแผ่ขยายจิตวิญญาณ เพื่อจะหลั่งไหลความมั่งคั่งที่สะสมไว้ให้กับผู้อื่น นั่นคือคุณลักษณะของความรักเมตตาของพระนางมารีย์ แม้ว่าพระนางจะเต็มเปี่ยมด้วยความรักของพระเจ้า ความทรงจำทั้งหมดในการไตร่ตรองถึงธรรมล้ำลึกของพระเจ้าที่เกิดขึ้นในพระนางและรอบๆ ตัวพระนาง เรื่องราวที่ผ่านมาไม่ได้ขัดขวางพระนางจากการให้ความสนใจกับเพื่อนบ้าน ตรงกันข้ามเราเห็นพระนางมีเมตตาและเอาใจใส่ต่อความต้องการของผู้อื่นเสมอ นอกจากนี้ความมั่งคั่งภายในของพระนางเองก็กระตุ้นให้ปรารถนาที่จะแบ่งปันสมบัติล้ำค่าที่พระนางครอบครองให้กับผู้อื่น นี่คือท่าทีที่อธิบายไว้ในพระวรสาร ทันทีหลังจากการแจ้งสารของทูตสวรรค์ พระนางออกเดินทาง “อย่างเร่งรีบ” ดังที่นักบุญลูกากล่าวว่าเพื่อไปเยี่ยมนางเอลิซาเบธ คงจะเป็นการดีมากกว่าสำหรับพระนางที่จะอยู่นาซาเร็ธ พึงพอใจกับความสันโดษและความเงียบในพระวจนาตถ์ของพระเจ้าที่มารับสภาพมนุษย์ในครรภ์ของพระนาง แต่ทูตสวรรค์ได้แจ้งพระนางถึงญาติที่ชราแล้วใกล้จะถึงกำหนดคลอดบุตร เท่านี้ก็เพียงพอแล้วที่พระนางจะรู้สึกถึงความจำเป็นต้องไปหานางเอลิซาเบธและอยู่รับใช้อย่างอ่อนน้อมถ่อมตน ดังนั้นเราสามารถพูดได้ว่าการกระทำครั้งแรกของพระนางมารีย์หลังจากที่ได้เป็นพระมารดาของพระเจ้าเป็นการกระทำแห่งความรักเมตตาต่อเพื่อนบ้าน พระเจ้าทรงมอบพระองค์เองให้กับพระนางในฐานะพระบุตร และพระนางมารีย์ผู้ซึ่งมอบตนเองให้พระเจ้าในฐานเป็น “ผู้รับใช้” ของพระองค์ และปรารถนาที่จะมอบตนเองเป็น “ผู้รับใช้” ของผู้อื่นเช่นกัน ความสัมพันธ์เป็นหนึ่งเดียวอย่างใกล้ชิดระหว่างความรักเมตตาต่อพระเจ้าและความรักเมตตาต่อเพื่อนบ้านปรากฎชัดอย่างพิเศษที่นี่ การกระทำความรักเมตตาของพระนางที่มีต่อนางเอลีซาเบธนั้นสอดคล้องกันอย่างสมบูรณ์แบบกับการแสดงความรักอันสูงส่งซึ่งพระนางมารีย์ได้ถวายตัวทั้งครบแด่พระเจ้าเมื่อพระนางกล่าวว่า “ขอให้เป็นไปกับข้าพเจ้าตามวาจาของท่านเถิด”

    

           2.ในการบังเกิดมาของพระเยซูก็เช่นเดียวกัน ด้วยความปีติยินดีพระนางมารีย์ได้รำพึงถึงพระองค์ พระบุตรของพระนาง แต่สิ่งนี้ไม่ได้ขัดขวางพระนางที่จะมอบพระองค์ให้ผู้เลี้ยงแกะเข้ามานมัสการ นี่คือความรักเมตตาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพระนางมารีย์ต่อมนุษย์ การมอบพระเยซูเจ้าให้แก่พวกเขาแทบในทันทีที่พระองค์มอบพระองค์เองให้กับพระนาง พระนางไม่ต้องการเป็นคนเดียวที่ได้รับความชื่นชมยินดีจากพระองค์ แต่อยากจะแบ่งปันความชื่นชมยินดีของพระนางกับมนุษย์ทุกคน และเช่นเดียวกับที่พระนางมอบพระองค์แก่คนเลี้ยงแกะและพวกโหราจารย์ที่มานมัสการพระองค์ ภายหลังพระนางก็จะมอบพระองค์ให้กับเพชฌฆาตที่จะตรึงพระองค์บนไม้กางเขน พระเยซูเจ้าทรงเป็นทุกสิ่งสำหรับพระนางมารีย์ ถึงกระนั้น ด้วยความรักเมตตาอันยิ่งใหญ่ พระนางจึงไม่ลังเลที่จะถวายพระองค์เป็นยัญบูชาเพื่อความรอดของมนุษย์ เราสามารถที่จะคิดถึงความรักเมตตาอันสูงส่งหรือบุญกุศลอื่นที่ประเสริฐกว่านี้ได้ไหม รองจากความรักของพระเยซู แน่นอนไม่มีใครรักมนุษย์มากไปกว่าพระนางมารีย์
                                                                                                    
             อีกแง่มุมหนึ่งของความรักเมตตาที่พระนางมีต่อผู้อื่นนั้นแสดงให้เห็นได้จากการรู้จักผ่อนหนักผ่อนเบา เมื่อพระนางมารีย์พบพระเยซูเจ้าในพระวิหาร หลังจากออกค้นหาด้วยความวิตกกังวลและทนทุกข์อย่างมากมาเป็นเวลาสามวัน พระนางปิดบังความระทมทุกข์ไว้เบื้องหลังความทุกข์ใจของท่านนักบุญยอแซฟ “ดูซิ พ่อกับแม่ต้องกังวลใจตามหาลูก” (ลก 2:48) ความรักเมตตาที่ละเอียดอ่อนต่อท่านนักบุญยอแซฟ ทำให้พระนางอ่อนไหวอย่างมากต่อความทุกข์ใจของท่าน และพระนางให้ความสำคัญมากกว่าความระทมทุกข์ของตน งานแต่งที่เมืองคานาทำให้เราเห็นอีกตัวอย่างหนึ่งเกี่ยวกับความละเอียดอ่อนของพระนางมารีย์ ในขณะที่ทุกคนกำลังยุ่งอยู่กับงานเลี้ยง มีเพียงพระนางได้สังเกตเห็นความลำบากใจของคู่บ่าวสาวเมื่อเหล้าองุ่นหมด และจัดการเรื่องนี้อย่างละเอียดอ่อนจนไม่มีใครสังเกตเห็นแม้แต่ผู้จัดงานเลี้ยง

            พระนางมารีย์สอนเราว่าเมื่อความรักของเราที่มีต่อพระเจ้าสมบูรณ์แบบจริงๆ ความรักนั้นจะหลั่งไหลไปสู่ความรักที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อเพื่อนบ้านของเราทันที เพราะอย่างที่นักบุญโธมัสกล่าวว่า ผู้ที่รักพระเจ้าจะรักทุกสิ่งที่พระเจ้ารัก ถ้าอย่างนั้นเราต้องตระหนักว่าในการปฏิบัติต่อเพื่อนบ้านของเรานั้น หากเราไม่ได้มีใจเมตตา มีความกรุณา หรือไม่สนใจความต้องการของเขา เราอาจสรุปได้ว่าความรักที่เรามีต่อพระเจ้านั้นยังอ่อนแออยู่มาก

 

LINKS

www.ppoomm.v

http://www.catholicmission.org.au/http://www.missionsocieties.ca/www.pms-phil.orgwww.missio.org.mthttp://www.obrasmisionalespontificias.es/คณะธรรมทูตไทย

สถิติการเยี่ยมชม

14521908
Today
Yesterday
This Week
This Month
All days
229
180
942
6930
14521908
Your IP: 3.227.252.87
2024-03-28 16:59