“ใจที่เร่าร้อนเป็นไฟ เท้าต้องก้าวเดินไป" (เทียบ ลก 24:13-35) ....สารวันแพร่ธรรม ปี 2023....

“ฆราวาสคือธรรมทูตที่แท้จริง” (บุญราศีเปาโล มานนา)สมณองค์กรสหพันธ์ธรรมทูตของพระสงฆ์และนักบวช

ตุลาคม 2021

“ฆราวาสคือธรรมทูตที่แท้จริง”
(บุญราศีเปาโล มานนา)

(ข้อไตร่ตรองสำหรับฆราวาส)

จากพระวรสารนักบุญมัทธิว

            “บรรดาผู้ชอบธรรมจะทูลถามว่า “พระเจ้าข้า เมื่อใดเล่าข้าพเจ้าทั้งหลายเห็นพระองค์ทรงหิว แล้วถวายพระกระยาหาร หรือทรงกระหาย แล้วถวายให้ทรงดื่ม เมื่อใดเล่าข้าพเจ้าเห็นพระองค์ทรงเป็นแขกแปลกหน้าแล้วต้อนรับ หรือทรงไม่มีเสื้อผ้าแล้วถวายให้ เมื่อใดเล่าข้าพเจ้าทั้งหลายเห็นพระองค์ประชวรหรือทรงอยู่ในคุกแล้วไปเยี่ยม พระมหากษัตริย์จะตรัสตอบว่า เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ท่านทำสิ่งใดต่อพี่น้องผู้ต่ำต้อยที่สุดของเราคนหนึ่ง ท่านก็ทำสิ่งนั้นต่อเรา...พวก​นั้น​จะ​ทูลถาม​ว่า พระ​เจ้า​ข้า เมื่อใด​เล่า​ที่​ข้าพ​เจ้า​ทั้ง​หลาย​เห็น​พระ​องค์​ทรง​หิว ทรง​กระหาย ทรง​เป็น​แขก​แปลก​หน้า หรือ​ไม่​มี​เสื้อผ้า เจ็บป่วย หรือ​อยู่​ใน​คุก และ​ไม่​ได้​ช่วยเหลือ พระ​องค์​จะ​ตรัส​ตอบ​ว่า เรา​บอก​ความ​จริง​แก่​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ว่า ท่าน​ไม่​ได้​ทำ​สิ่งใด​ต่อ​ผู้​ต่ำต้อย​ของ​เรา​คน​หนึ่ง​ท่าน​ก็​ไม่​ได้​ทำ​สิ่ง​นั้น​ต่อ​เรา แล้ว​พวก​นี้​ก็​จะ​ไป​รับโทษ​นิรันดร ส่วน​ผู้​ชอบ​ธรรม​จะ​ไป​รับ​ชีวิต​นิรันดร” (มธ 25.37-40,4-46)

 

จากเอกสารพระศาสนจักร

            “คำว่า ฆราวาส ในที่นี้หมายถึงผู้มีความเชื่อทุกคน...ผู้ที่มีความเชื่อเหล่านี้ผ่านทางศีลล้างบาปได้ถูกทำให้เป็นหนึ่งเดียวในพระกายของพระคริสตเจ้าและได้ถูกตั้งขึ้นให้อยู่ท่ามกลางประชากรของพระเจ้า ในวิถีทางของตน ทำให้มีส่วนร่วมในพระคริสตเจ้าด้วยหน้าที่ของการเป็นสงฆ์ ประกาศก และกษัตริย์ เขาทำหน้าที่ดังกล่าว ตามส่วนตามแบบอย่างของเขาในฐานะประชากรของพระเจ้ากระทำในพระศาสนจักรและโลกมนุษย์ ” (LG. 31)

“งานแพร่ธรรมสู่นานาชาติ เป็นงานที่เกี่ยวพันไปถึงประชากรทั้งปวงของพระเจ้า   ถึงแม้ว่าการก่อตั้งพระศาสนจักรใหม่ๆ จะเรียกร้องให้ต้องมีศีลมหาสนิทซึ่งหมายถึงศาสนบริการของผู้เป็นสงฆ์ กิจการแพร่ธรรม ซึ่งปฏิบัติได้ในรูปแบบหลากหลายก็ยังตกเป็นภาระหน้าที่ของสัตบุรุษทุกคน…การเข้ามามีส่วนร่วมของฆราวาสในการแพร่กระจายความเชื่อนี้ ปรากฏอย่างแจ้งชัด นับตั้งแต่ยุคแรก ๆ ของคริสตศาสนา อาศัยการปฏิบัติงานของสัตบุรุษและครอบครัวตลอดจนชุมชนทั้งหมด” (RM. 71)

“แวดวงซึ่งฆราวาสปรากฏตัวอยู่ และปฏิบัติงานแพร่ธรรมนั้น มีขอบเขตกว้างขวางอย่างยิ่ง แวดวงแรก ‘ก็คือโลกอันกว้างขวางและซับซ้อนของการเมือง ชีวิตสังคมและเศรษฐกิจ’ในระดับท้องถิ่น ระดับชาติ และระหว่างชาติ ภายในพระศาสนจักรเองเราจะพบบริการหลายประเภทต่างๆ กันทั้งการปฏิบัติหน้าที่ ศาสนบริการ และรูปแบบต่างๆ ของการส่งเสริมชีวิตคริสตชนให้มีชีวิตชีวา” (RM. 72)

“ด้วยพระหรรษทานที่ได้รับจากศีลล้างบาป สมาชิกแต่ละคนของประชากรพระเจ้ากลายเป็นสานุศิษย์ธรรมทูต (เทียบ มธ 28.19) ผู้รับศีลล้างบาปแต่ละคน ไม่ว่าจะมีหน้าที่ใดในพระศาสนจักร หรือมีความรู้ในเรื่องความเชื่อในระดับใด ต่างเป็นสมาชิกที่กระตือรือร้นในการประกาศพระวรสาร และไม่เป็นการเพียงพอที่จะคิดถึงรูปแบบการประกาศพระวรสารที่ใช้สำหรับผู้ที่มีคุณสมบัติ ในขณะที่ประชากรผู้ซื่อสัตย์ที่เหลือนั้นเป็นเพียงผู้รับที่ไม่มีบทบาทใดๆ” (EG. 120)

จากงานเขียนของบุญราศีคุณพ่อเปาโล มานนา

            “พระเจ้าไม่ทรงมีพระประสงค์ที่จะให้มีชนชั้นพิเศษ แบ่งแยกจากมวลมนุษยชาติที่เหลือ เพื่อสร้างชนชาติหนึ่งโดยเฉพาะ ชายและหญิงทุกคน รวมถึงบรรดาคริสตชนได้รับการเรียกไปสู่ความศักดิ์สิทธิ์”

            “การเผยแผ่ความเชื่อและส่งเสริมกระแสเรียกธรรมทูตเป็นหน้าที่อันยิ่งใหญ่ที่เกิดจากการสวดภาวนาประจำวันของคริสตชนที่ว่า ‘ขอให้พระอาณาจักรจงมาถึง’ และจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราทุกคนไม่ให้ความร่วมมือในการมาถึงของพระอาณาจักร ใครจะเป็นผู้มอบธรรมทูตให้กับพระศาสนจักร ใครจะเป็นผู้สนับสนุนพวกเขาในงานที่ยากลำบาก ถ้าไม่ใช่เรา?”

            “ในสงคราม มีทั้งแนวหน้าและแนวหลังเสมอ แล้วคนที่อยู่แนวหลังทำอะไรเพื่อพวกทหารที่กำลังต่อสู้? พวกเขาพูดถึงบรรดาทหารด้วยความชื่นชมอย่างมาก คริสตชนได้พูดถึงบรรดาธรรมทูตบ้างไหม? พวกเขารู้สึกชื่นชมและรักใคร่บรรดาธรรมทูตหรือไม่? ที่แนวหลัง พวกเขาได้สวดภาวนาเพื่อทหารและส่งสิ่งของที่จำเป็นในการสนับสนุน และพวกเราได้สวดภาวนาเพื่อทหารของพระเยซูคริสต์ เพื่อบรรดาธรรมทูต วอนขอพระเจ้าประทานความเข้มแข็ง กล้าหาญ อดทน และพระหรรษทานทั้งหมดแก่พวกเขาหรือไม่? เราได้ทำอะไรเพื่อบรรดาธรรมทูตแนวหน้า?”

คำถามเพื่อการไตร่ตรอง

  • เราจำอะไรได้บ้างเกี่ยวกับศีลล้างบาปและศีลกำลังที่ทำให้เรารวมอยู่ในพันธกิจการแพร่ธรรมของพระศาสนจักร?
  • เราจะบรรลุถึงกระแสเรียกการเป็นธรรมทูตของเราในที่ทำงาน ครอบครัว และในวัดได้อย่างไร?
  • เราจะสามารถมีส่วนในงานแพร่ธรรมสู่นานาชาติ(Ad gentes)ได้อย่างไร?
  • เมื่อเราสวดภาวนาด้วยถ้อยคำที่ว่า “พระบิดาของข้าพเจ้าทั้งหลาย” เรารู้หรือไม่ว่าคำภาวนานี้เป็นคำมั่นสัญญาที่จะเอาใจใส่ต่อพระศาสนจักรทั่วโลก?
  • เราได้สวดภาวนาเพื่องานแพร่ธรรมและบรรดาธรรมทูตครั้งสุดท้ายเมื่อใด?

บทภาวนา

            ข้าแต่พระเยซูคริสตเจ้า พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ของโลกนี้ ทรงเป็นความวางใจและความคาดหวังของชนทุกชาติ พระองค์ได้ทรงไถ่ทุกคนด้วยพระโลหิตอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ ขอทรงโปรดกรุณาต่อบรรดาประชาชาติที่ได้กระจัดกระจายไปทั่วโลกอันกว้างใหญ่นี้ และทรงเผยความจริงแท้ของพระองค์ให้พวกเขาได้รู้  ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้ามีเพียงส่วนหนึ่งของมนุษยชาติเท่านั้นที่รู้จักพระนามของพระองค์ มีเพียงส่วนหนึ่งของมนุษยชาติเท่านั้นที่วอนขอต่อพระองค์ เพื่อผู้ที่ยังไม่รู้จักพระองค์ โปรดอย่าทรงเหลียวมองความบาปผิดของพวกเขา แต่โปรดแสดงพระเมตตาของพระองค์ต่อโลก โปรดให้ทุกคนได้รู้จักพระนามของพระองค์ เชื่อในพระองค์ และกลับมารับใช้พระองค์ พระองค์ทรงเป็นชีวิตและความรอดพ้นและการกลับคืนชีพของข้าพเจ้าทั้งหลาย ทั้งนี้อาศัยพระบารมีพระเจ้าพระบิดาและพระจิตตลอดนิรันดร อาแมน

 

 

                              

 

 

ผู้อํานวยการ PMS ประเทศไทย

คุณพ่อเปาโล ไตรรงค์  มุลตรี ผู้อํานวยการ สมณองค์กรสนับสนุนงานแพร่ธรรม (PMS)ประเทศไทย
คุณพ่อเปาโล ไตรรงค์  มุลตรี
ผู้อํานวยการ
สมณองค์กรสนับสนุนงานแพร่ธรรม
(PMS)ประเทศไทย


LINKS

www.ppoomm.v

http://www.catholicmission.org.au/http://www.missionsocieties.ca/www.pms-phil.orgwww.missio.org.mthttp://www.obrasmisionalespontificias.es/คณะธรรมทูตไทย

สถิติการเยี่ยมชม

14522694
Today
Yesterday
This Week
This Month
All days
589
426
1728
7716
14522694
Your IP: 3.233.221.42
2024-03-29 16:06