“ใจที่เร่าร้อนเป็นไฟ เท้าต้องก้าวเดินไป" (เทียบ ลก 24:13-35) ....สารวันแพร่ธรรม ปี 2023....

สาส์นของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส

สำหรับวันอาทิตย์แพร่ธรรมสากล 2024

20 ตุลาคม 2024

จงไปและเชิญทุกคนมางานเลี้ยง (เทียบ มธ 22:9)

 สาส์นของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส  สำหรับวันอาทิตย์แพร่ธรรมสากล 2024

พี่น้องชายหญิงที่รัก

             หัวข้อที่ข้าพเจ้าเลือกสำหรับวันแพร่ธรรมสากลปีนี้นำมาจากอุปมาเรื่องงานวิวาหมงคลในพระวรสาร (เทียบ มธ 22:1-14) หลังจากที่ผู้รับเชิญปฏิเสธคำเชิญ กษัตริย์ซึ่งเป็นตัวละครหลักในเรื่องก็ตรัสกับผู้รับใช้ว่า “จงไปตามทางแยกพบผู้ใดก็ตาม จงเชิญมาในงานวิวาห์เถิด” (ข้อ 9) เมื่อไตร่ตรองข้อความสำคัญนี้ในบริบทของอุปมาและชีวิตของพระเยซูเจ้าเอง เราสามารถมองเห็นแง่มุมที่สำคัญหลายประการของการประกาศข่าวดี สิ่งเหล่านี้ปรากฏให้เห็นในเวลาที่เหมาะสมเป็นพิเศษสำหรับเราทุกคนในฐานะศิษย์ธรรมทูตของพระคริสตเจ้า ระหว่างขั้นตอนสุดท้ายของซีนอด ในคติพจน์ที่ว่า “เป็นหนึ่งเดียวกัน การมีส่วนร่วม พันธกิจ” พยายามที่จะให้พระศาสนจักรมุ่งความสนใจไปที่งานหลักของตนเองอีกครั้ง ซึ่งก็คือการเทศน์สอนข่าวดีในโลกปัจจุบัน

  1. “จงไปและเชิญ” เป็นพันธกิจอย่างไม่รู้จักเหนื่อยในการออกไปเชิญผู้อื่นมางานเลี้ยงขององค์พระผู้เป็นเจ้า

ในคำสั่งของกษัตริย์ที่สั่งผู้รับใช้ของพระองค์ เราพบคำสองคำที่แสดงถึงหัวใจของพันธกิจ เป็นคำกริยาคือ “จงไป” และ “จงเชิญ”

            ประการแรก เราต้องจำไว้ว่าผู้รับใช้เคยถูกส่งไปเพื่อนำคำเชิญของกษัตริย์ไปยังผู้รับเชิญ(เทียบ ข้อ 3-4) เราเห็นพันธกิจคือการออกไปหาชายหญิงทุกคนอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย เพื่อเชิญพวกเขาให้มาพบกับพระเจ้า และเข้าสู่ความเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์ พระเจ้าผู้ไม่ทรงเหน็ดเหนื่อย ผู้ยิ่งใหญ่ในความรัก และมั่งคั่งด้วยความเมตตา มุ่งหน้าออกไปพบปะชายหญิงทุกคนอย่างมั่นคง และเรียกพวกเขาให้มามีความสุขในพระอาณาจักรของพระองค์ แม้จะต้องเผชิญกับความเฉยเมยหรือการปฏิเสธก็ตาม พระเยซูคริสตเจ้า นายชุมพาบาลที่ดี และผู้ส่งสารของพระบิดา ทรงออกไปตามหาแกะที่หลงหายไปของประชากรชาวอิสราเอล และทรงปรารถนาที่จะไปให้ไกลยิ่งขึ้น เพื่อที่จะไปให้ถึงแกะที่อยู่ห่างไกลที่สุด (เทียบ ยน 10:16) ทั้งก่อนและหลังการกลับคืนพระชนมชีพพระองค์ตรัสกับบรรดาศิษย์ว่า “จงไป” ซึ่งทำให้พวกเขามีส่วนในพันธกิจของพระองค์ (เทียบ ลก 10:3 มก 16:15) ในส่วนของพระศาสนจักร ด้วยความซื่อสัตย์ต่อพันธกิจที่ตนได้รับจากองค์พระผู้เป็นเจ้า จะสานต่อการไปจนสุดปลายแผ่นดิน เพื่อออกเดินทางครั้งแล้วครั้งเล่า โดยไม่เบื่อหน่ายหรือท้อถอยเมื่อเผชิญกับความยากลำบากและอุปสรรค

           ข้าพเจ้าขอใช้โอกาสนี้ขอบคุณบรรดาธรรมทูตทุกคนที่ตอบรับการเรียกของพระคริสตเจ้า ที่ได้ละทิ้งทุกสิ่งไว้เบื้องหลังเพื่อไปไกลจากบ้านเกิดของตนและนำข่าวดีไปยังสถานที่ซึ่งผู้คนยังไม่ได้รับหรือเพิ่งได้รับเมื่อไม่นานมานี้ เพื่อน ๆ ที่รัก การอุทิศตนอย่างมีน้ำใจของพวกท่านเป็นการแสดงออกถึงความมุ่งมั่นของพวกท่านต่อพันธกิจสู่นานาชาติที่พระเยซูเจ้าทรงฝากไว้กับบรรดาศิษย์ของพระองค์ “จงไปสั่งสอนนานาชาติให้มาเป็นศิษย์ของเรา” (มธ 28:19) ให้เราอธิษฐานภาวนาต่อไปและขอบคุณพระเจ้าสำหรับกระแสเรียกธรรมทูตใหม่ๆ อย่างมากมายสำหรับงานการประกาศข่าวดีไปจนสุดปลายแผ่นดิน

          อย่าลืมว่าคริสตชนทุกคนได้รับเรียกให้มีส่วนร่วมในพันธกิจสากลนี้ ด้วยการเป็นประจักษ์พยานด้วยตนเองต่อข่าวดีในทุกบริบท เพื่อทั่วทั้งพระศาสนจักรจะได้ออกไปพร้อมกับองค์พระผู้เป็นเจ้าและพระอาจารย์ของตนอย่างต่อเนื่องไปยัง "ทางแยก" ของโลกในปัจจุบัน “เรื่องราวอันน่าทึ่งในทุกวันนี้ของพระ ศาสนจักร คือ พระเยซูเจ้าทรงเคาะประตูจากภายใน เพื่อว่าเราจะได้ปล่อยพระองค์ออกไป! บ่อยครั้งที่เราลงเอยด้วยการเป็นพระศาสนจักรที่ 'คุมขัง' ซึ่งไม่ยอมให้พระเจ้าออกไป ทำให้พระองค์เป็น 'ของตนเอง' ในขณะที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเสด็จมาเพื่อพันธกิจและต้องการให้เราเป็นธรรมทูต” (คำปราศรัยต่อผู้เข้าร่วมในการประชุมใหญ่ที่จัดโดย หน่วยงานเพื่อฆราวาส ครอบครัว และชีวิต เมื่อ 18 กุมภาพันธ์ 2023) ขอให้เราทุกคนที่ได้รับศีลล้างบาปแล้ว พร้อมที่จะออกเดินทางใหม่ แต่ละคนตามสภาพชีวิตของเรา เพื่อเปิดตัวขบวนการธรรมทูตใหม่ ราวกับรุ่งอรุณของคริสตศาสนา

         กลับไปสู่คำสั่งของกษัตริย์ในอุปมา ไม่เพียงแต่บอกผู้รับใช้ให้ "ไป" เท่านั้น แต่ยังให้ "เชิญ" ด้วย "มางานวิวาห์" (มธ 22:4) ที่นี่เราจะเห็นอีกแง่มุมหนึ่งของพันธกิจซึ่งสำคัญไม่แพ้กันที่พระเจ้าทรงมอบหมาย ตามที่เราจินตนาการได้ บรรดาผู้รับใช้ถ่ายทอดคำเชิญของกษัตริย์ด้วยความเร่งด่วน แต่ยังแสดงความเคารพและความเมตตาอย่างสูงเช่นกัน ในทำนองเดียวกัน พันธกิจในการนำข่าวดีมาสู่สิ่งสร้างทั้งหมดจำเป็นต้องเลียนแบบ "รูปแบบ" แบบเดียวกันนี้ของพระองค์ผู้ทรงกำลังเทศน์สอนอยู่ ในการประกาศต่อโลกว่า “ความงดงามแห่งความรักที่ช่วยให้รอดพ้นของพระเจ้า ซึ่งแสดงออกในพระเยซูคริสตเจ้า ผู้ทรงสิ้นพระชนม์ และเสด็จกลับคืนพระชนมชีพ” (EG 36) บรรดาศิษย์ธรรมทูตควรทำเช่นนั้นด้วยความชื่นชมยินดี ความหาญกล้าทางใจ และความกรุณาอันเป็นผลของพระจิตเจ้าที่อยู่ภายในพวกเขา (เทียบ กท 5:22) ไม่ใช่โดยการกดดัน บีบบังคับ หรือการชักชวนให้เปลี่ยนศาสนา แต่ด้วยความใกล้ชิด ความเห็นอกเห็นใจ และความอ่อนโยน และในลักษณะนี้สะท้อนถึงวิธีการเป็นและการกระทำของพระเจ้าเอง

 

  1. “มาในงานวิวาห์” มิติเกี่ยวกับอันตกาลและศีลมหาสนิทของพันธกิจของพระคริสตเจ้าและของพระ ศาสนจักร

              ในอุปมา กษัตริย์ทรงขอให้ผู้รับใช้นำคำเชิญไปงานเลี้ยงมงคลสมรสของพระโอรสของพระองค์ งานเลี้ยงนั้นเป็นภาพสะท้อนถึงงานเลี้ยงในอันตกาล เป็นภาพลักษณ์ของการช่วยให้รอดพ้นขั้นสูงสุดในพระอาณาจักรของพระเจ้า ซึ่งสำเร็จแม้กระทั่งปัจจุบันโดยการเสด็จมาของพระเยซูเจ้า พระเมสสิยาห์ และพระบุตรของพระเจ้า ผู้ทรงประทานชีวิตอย่างสมบูรณ์แก่เรา (เทียบ ยน 10:10) มีสัญลักษณ์โดยโต๊ะที่จัดไว้ด้วยอาหารเลิศรสและเหล้าองุ่นอย่างดี เมื่อพระเจ้าจะทรงทำลายความตายตลอดไป (เทียบ อสย 25:6-8)

              พันธกิจของพระคริสตเจ้าเกี่ยวข้องกับความสมบูรณ์ของเวลา ดังที่พระองค์ทรงประกาศเมื่อทรงเริ่มเทศนาว่า “เวลาที่กำหนดไว้มาถึงแล้ว และอาณาจักรของพระเจ้าอยู่ใกล้แล้ว”(มก 1:15) บรรดาศิษย์ของพระคริสตเจ้าได้รับเรียกให้สานต่อพันธกิจขององค์พระผู้เป็นเจ้า และพระอาจารย์ของพวกเขา ณ ที่นี้เรานึกถึงคำสอนของสภาสังคายนาวาติกัน ครั้งที่ 2 เกี่ยวกับลักษณะอันตกาลของการขยายงานของบรรดาธรรมทูตของพระศาสนจักร “เวลาของกิจการธรรมทูตจึงขยายออกไประหว่างการเสด็จมาครั้งแรกและครั้งที่สองขององค์พระผู้เป็นเจ้า... ข่าวดีจะต้องได้รับการประกาศให้ชนทุกชาติรู้ ก่อนที่พระองค์จะเสด็จมา (เทียบ มก 13:10) (AG 9)

              เรารู้ว่าความกระตือรือร้นในงานธรรมทูตของคริสตชนกลุ่มแรกๆ มีมิติของอันตกาลที่มีพลัง พวกเขาสัมผัสได้ถึงความเร่งด่วนของการเทศน์สอนข่าวดี ปัจจุบันนี้เช่นกัน สิ่งสำคัญคือต้องรักษามุมมองนี้ไว้ เนื่องจากช่วยให้เราประกาศข่าวดีด้วยความชื่นชมยินดีกับผู้ที่รู้ว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอยู่ใกล้แล้ว” และด้วยความหวังของผู้ที่กำลังมุ่งหน้าสู่เป้าหมาย เมื่อเราทุกคนจะได้อยู่กับพระคริสตเจ้าในงานวิวาห์มงคลของพระองค์ในพระอาณาจักรของพระเจ้า ในขณะที่โลกกำลังจัด "งานเลี้ยง" ต่างๆ ของลัทธิบริโภคนิยม ความสุขสบายที่เห็นแก่ตัว การสะสมความมั่งคั่งและลัทธิปัจเจกนิยม พระวรสารเรียกทุกคนมาร่วมงานเลี้ยงฉลองของพระเจ้า ซึ่งเต็มไปด้วยความชื่นชมยินดี การแบ่งปัน ความยุติธรรม และความเป็นพี่น้องกันในความเป็นหนึ่งเดียวกันกับพระเจ้าและกับผู้อื่น

              ความสมบูรณ์ของชีวิตซึ่งเป็นของประทานจากพระคริสตเจ้า เป็นการคาดการล่วงหน้าแม้ในทุกวันนี้ว่าจะเกิดขึ้นในงานเลี้ยงศีลมหาสนิทซึ่งพระศาสนจักรเฉลิมฉลองตามพระบัญชาขององค์พระผู้เป็นเจ้าเพื่อรำลึกถึงพระองค์ การเชิญให้เข้าสู่งานเลี้ยงอันตกาลที่เรานำมาให้กับทุกคนในพันธกิจการประกาศข่าวดีนั้นเชื่อมโยงโดยเนื้อแท้กับการเชิญให้เข้าร่วมโต๊ะศีลมหาสนิท ที่ซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเลี้ยงเราด้วยพระวาจาของพระองค์ ด้วยพระกายและพระโลหิตของพระองค์ ดังที่สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ ที่ 16 ทรงสอนว่า“การเฉลิมฉลองศีลมหาสนิททุกครั้งทำให้การมาชุมนุมกันในอันตกาลของประชากรของพระเจ้าบรรลุผลสำเร็จ สำหรับเรา งานเลี้ยงศีลมหาสนิทเป็นการลิ้มรสล่วงหน้าอย่างแท้จริงของงานเลี้ยงครั้งสุดท้ายที่บรรดาประกาศกได้บอกไว้ล่วงหน้า (เทียบ อสย 25:6-9) และอธิบายไว้ในพระคัมภีร์พันธสัญญาใหม่ ว่าเป็น 'งานวิวาหมงคลของลูกแกะ' (วว 19:9) เพื่อเฉลิมฉลองด้วยความชื่นชมยินดีของสหพันธ์นักบุญ” (SC 31)

              ด้วยเหตุนี้ เราทุกคนจึงถูกเรียกให้มามีประสบการณ์กับศีลมหาสนิทอย่างเข้มข้นมากขึ้น ในทุกมิติ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งมิติอันตกาลและมิติทางงานธรรมทูต ในเรื่องนี้ ข้าพเจ้าขอย้ำว่า “เราไม่สามารถเข้าใกล้โต๊ะศีลมหาสนิทได้โดยไม่ถูกดึงเข้าสู่งานแพร่ธรรมซึ่งเริ่มต้นจากดวงพระหฤทัยของพระเจ้า มีจุดมุ่งหมายเพื่อเข้าถึงมนุษย์ทุกคน” (SC 84) การฟื้นฟูศีลมหาสนิทที่พระศาสนจักรท้องถิ่นหลายแห่งส่งเสริมอย่างน่ายกย่องในยุคหลังโควิด จะเป็นสิ่งจำเป็นในการฟื้นฟูจิตตารมณ์ธรรมทูตในตัวสมาชิกของสัตบุรุษแต่ละคน เราควรสวดบทในบูชาขอบพระคุณด้วยความเชื่อและความกระตือรือร้นจากใจมากยิ่งขึ้นเพียงใด “ข้าแต่พระเยซูเจ้า ทุกครั้งที่ข้าพเจ้าทั้งหลายรับประทานปังและดื่มจากถ้วยนี้ ก็เป็นการประกาศว่าพระองค์ได้สิ้นพระชนม์ ทั้งนี้ จนกว่าจะเสด็จกลับมาอีก”

               ปีนี้อุทิศให้กับการภาวนาเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับปีศักดิ์สิทธิ์ ปี 2025 ข้าพเจ้าปรารถนาที่จะสนับสนุนให้ทุกคนมีความมุ่งมั่นอย่างลึกซึ้ง เหนือสิ่งอื่นใดคือการมีส่วนร่วมในการเฉลิมฉลองในพิธีบูชาขอบพระคุณ และสวดภาวนาเพื่อพันธกิจการประกาศข่าวดีของพระศาสนจักร ในการเชื่อฟังพระบัญชาของพระผู้ช่วยให้รอด พระศาสนจักรไม่หยุดสวดบท “ข้าแต่พระบิดาของข้าพเจ้าทั้งหลาย” ในทุกครั้งที่ประกอบพิธีศีลมหาสนิทและพิธีกรรม พร้อมกับคำอ้อนวอนว่า “พระอาณาจักร จงมาถึง” ด้วยวิธีนี้ การสวดภาวนาประจำวันและศีลมหาสนิททำให้เราเป็นผู้จาริกและธรรมทูตแห่งความหวัง เดินทางสู่ชีวิตนิรันดร์ในพระเจ้า สู่งานเลี้ยงสมรสที่พระเจ้าได้ทรงจัดเตรียมไว้สำหรับลูกๆ ทุกคนของพระองค์

 

  1. "ทุกคน" พันธกิจสากลของบรรดาศิษย์ของพระคริสตเจ้าในพระศาสนจักรที่ก้าวไปด้วยกันและงานธรรมทูตของพระศาสนจักร

              การไตร่ตรองที่สามและสุดท้ายเกี่ยวข้องกับผู้รับคำเชิญของกษัตริย์ “ทุกคน” ดังที่ข้าพเจ้าเน้นย้ำว่า “นี่คือหัวใจของพันธกิจ นั่นคือ'ทั้งหมด'ไม่ยกเว้นใครเลย ดังนั้น พันธกิจทุกอย่างของเราจึงเกิดจากพระหฤทัยของพระคริสตเจ้าเพื่อพระองค์จะทรงดึงดูดทุกสิ่งมาสู่พระองค์” (คำปราศรัยต่อสมัชชาใหญ่ขององค์กรสนับสนุนงานแพร่ธรรมของสันตสำนัก วันที่ 3 มิถุนายน 2023) ปัจจุบันในโลกที่ฉีกขาดออกจากกัน จากความแตกแยกและความขัดแย้ง พระวรสารของพระคริสตเจ้ายังคงเป็นเสียงที่อ่อนโยน ทว่าหนักแน่นซึ่งเรียกร้องให้แต่ละบุคคลหันมาพบปะกัน ยอมรับว่าพวกเขาเป็นพี่น้องกัน และชื่นชมยินดีในความปรองดองกันท่ามกลางความหลากหลาย “พระเจ้าพระผู้ไถ่ของเรา พระองค์มีพระประสงค์ให้ทุกคนได้รับความรอดพ้น และรู้ความจริงที่สมบูรณ์” (1 ทธ 2:4) ดังนั้น เราอย่าลืมว่าในกิจกรรมธรรมทูตของเรา ได้ขอให้เราเทศน์สอนพระวรสารแก่ทุกคน “มิใช่ให้กฎเกณฑ์ข้อบังคับใหม่ แต่เป็นผู้แบ่งปันความชื่นชมยินดี ชี้ให้เห็นขอบฟ้าที่งดงาม และเสนองานเลี้ยงที่น่าปรารถนา” (EG 14)

              ศิษย์ธรรมทูตของพระคริสตเจ้ามีความห่วงใยจากใจจริงต่อทุกคนเสมอ ไม่ว่าพวกเขาจะมีสถานะทางสังคมหรือศีลธรรมอย่างไรก็ตาม อุปมาเรื่องงานวิวาหมงคลบอกเราว่าตามคำสั่งของกษัตริย์ บรรดาผู้รับใช้จึงรวบรวม "เชิญทุกคนที่พบมารวมกัน ทั้งคนเลวและคนดี" (มธ 22:10) ยิ่งกว่านั้น “คนยากจน คนพิการ คนตาบอด และคนง่อย” (ลก 14:21) กล่าวอีกนัยหนึ่ง พี่น้องชายหญิงที่ต่ำต้อยที่สุดของเรา ผู้ที่ถูกสังคมมองว่าเป็นบุคคลชายขอบ ต่างก็เป็นแขกพิเศษของกษัตริย์ งานอภิเษกสมรสของพระบุตรของพระองค์ที่พระเจ้าทรงจัดเตรียมไว้ยังคงเปิดกว้างสำหรับทุกคนเสมอ เนื่องจากความรักที่พระองค์มีต่อเราแต่ละคนนั้นยิ่งใหญ่และไม่มีเงื่อนไข “พระเจ้าทรงรักโลกอย่างมาก จึงประทานพระบุตรเพียงองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่มีความเชื่อในพระบุตรจะไม่พินาศแต่มีชีวิตนิรันดร” (ยน 3:16) ชายและหญิงทุกคนได้รับเชิญจากพระเจ้าให้เข้ามามีส่วนในพระหรรษทานของพระองค์ ซึ่งเปลี่ยนแปลงและช่วยให้รอด เราจำเป็นต้องพูดว่า "ใช่" กับของประทานของพระเจ้านี้ที่ให้เปล่า ยอมรับและยอมให้ตัวเองได้รับการเปลี่ยนแปลงโดยสวมใส่ดัง "เสื้อสำหรับงานวิวาห์" (เทียบ มธ 22:12)

             พันธกิจสำหรับทุกคนเรียกร้องความมุ่งมั่นของทุกคน เราจำเป็นต้องเดินทางต่อไปสู่พระศาสนจักรที่ก้าวไปด้วยกันและงานธรรมทูตของพระศาสนจักรในการรับใช้ข่าวดี ‘พระศาสนจักรที่ก้าวไปด้วยกัน’ โดยเนื้อแท้แล้วคือธรรมทูต และในทางกลับกัน พันธกิจคือ‘พระศาสนจักรที่ก้าวไปด้วยกัน’เสมอ ด้วยเหตุนี้ ความร่วมมืออย่างใกล้ชิดของธรรมทูตจึงเป็นเรื่องเร่งด่วนและจำเป็นมากขึ้น ทั้งในพระศาสนจักรสากลและในพระศาสนจักรท้องถิ่น ในการตามรอยของสภาสังคายนาวาติกันที่ 2 และพระสันตะปาปาผู้ดำรงตำแหน่งก่อนหน้า ข้าพเจ้าแนะนำให้สังฆมณฑลต่างๆทั่วโลกใช้บริการขององค์กรสนับสนุนงานแพร่ธรรมของสันตะสำนัก(PMS) พวกเขาเป็นตัวแทนของวิธีการหลัก “เพราะมีวิธีการที่จะปลูกฝังจิตตารมณ์ธรรมทูตและความเป็นสากลอย่างแท้จริง ลงในใจของคาทอลิกตั้งแต่ยังเยาว์ และมีวิธีการที่จะรวบรวมเงินสนับสนุนให้กับงานแพร่ธรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตามความต้องการของแต่ละท้องที่” (AG 38) ด้วยเหตุนี้ การรวบรวมเงินวันแพร่ธรรมสากลในสังฆมณฑลท้องถิ่นทุกแห่งจึงถูกกำหนดให้เป็นกองทุนสากลแห่งความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน สมณองค์กรเผยแพร่ความเชื่อจะส่งเงินสนับสนุนในนามของสมเด็จพระสันตะปาปาตามความต้องการของงานธรรมทูตของพระศาสนจักร ขอให้เราภาวนาวอนขอองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงนำทางเรา และช่วยให้เราเป็นพระศาสนจักรที่ก้าวไปด้วยกันและเป็นพระศาสนจักรธรรมทูตมากยิ่งขึ้น (เทียบ บทเทศน์ในพิธีบูชาขอบพระคุณปิดสมัชชาใหญ่สามัญของพระสังฆราช 29 ตุลาคม 2023)

               ในที่สุด ให้เราเงยหน้าขึ้นมองพระนางมารีย์ ผู้ซึ่งขอให้พระเยซูเจ้าทรงกระทำอัศจรรย์ครั้งแรกของพระองค์ในงานมงคลสมรสที่หมู่บ้านคานา แคว้นกาลิลี (เทียบ ยน 2:1-12) องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงมอบเหล้าองุ่นใหม่จำนวนมากแก่คู่บ่าวสาวและแขกทุกคน เพื่อเป็นการบอกล่วงหน้าถึงงานเลี้ยงสมรสที่พระเจ้าทรงจัดเตรียมไว้สำหรับทุกคนเมื่อสิ้นกาลเวลา ให้เราวิงวอนขอพระนางผู้เป็นมารดา เพื่อพระนางจะได้วอนขอแทนเราสำหรับพันธกิจการประกาศข่าวดีของบรรดาศิษย์ของพระคริสตเจ้าในช่วงเวลาของเรา ด้วยความยินดีและความห่วงใยจากมารดาของเรา ด้วยพลังที่เกิดจากความอ่อนโยนและความรัก (เทียบ EG 288) ให้เราออกไปเพื่อนำคำเชิญของกษัตริย์พระผู้ช่วยให้รอดพ้นของเราไปสู่ทุกคน พระนางมารีย์ผู้ศักดิ์สิทธิ์ ดวงดาราแห่งการประกาศพระวรสาร โปรดภาวนาเพื่อพวกเราด้วยเทอญ

ที่กรุงโรม  มหาวิหารนักบุญยอห์น ลาเตรัน

25 มกราคม 2024

วันฉลองการกลับใจของนักบุญเปาโล

ฟรังซิส

LINKS

www.ppoomm.v

http://www.catholicmission.org.au/http://www.missionsocieties.ca/www.pms-phil.orgwww.missio.org.mthttp://www.obrasmisionalespontificias.es/คณะธรรมทูตไทย

สถิติการเยี่ยมชม

14594877
Today
Yesterday
This Week
This Month
All days
91
265
1278
7644
14594877
Your IP: 18.118.226.64
2024-09-27 06:18