5. บทบาทของผู้นำกับบรรดาเด็ก ๆ
ผู้ให้การอบรมศึกษา
ช่วยให้เด็ก ๆ ได้รู้จัก - รักศรัทธา - ภาคภูมิใจ - ปฏิบัติตามคำสอน และแบบอย่างของพระเยซูเจ้า มิใช่แค่ให้ความรู้ด้านสติปัญญา แต่ให้เด็ก ๆ ได้มีประสบการณ์ความรักส่วนตัวกับพระเยซูเจ้า
ผู้เป็นผู้นำฝ่ายจิตและผู้ให้แบบอย่าง
ชี้แนะและเป็นตัวอย่างในด้านความเชื่อศรัทธา ดำรงชีวิตในความเชื่อ และแบ่งปันความเชื่อนั้นกับเด็ก ๆ ผู้นำจึงเป็นผู้ที่ทำให้เด็กศักดิ์สิทธิ์ โดยที่ตนเองต้องหล่อเลี้ยงความเชื่อของตนด้วย
- การภาวนาส่วนตัวและส่วนรวม
- รับศีลมหาสนิทบ่อย ๆ โดยเฉพาะศีลอภัยบาป
- ฟัง อ่าน ตริตรองพระวาจาของพระเจ้าอย่างสม่ำเสมอ
- รักพระเจ้าและสวดภาวนาอยู่เสมอในทุกโอกาส
- มีความสำนึกอยู่เสมอว่าตนเองเป็นส่วนหนึ่งของพระศาสนจักร ซึ่งต้องรักซื่อสัตย์ และสืบสานงานของพระศาสนจักรภายใต้การปกครอง ของผู้มีอำนาจ ซึ่งมีพระสันตะปาปาเป็นประมุข
ผู้เป็นธรรมทูต
ส่งเสริม สนับสนุน เร้าใจ ให้แรงจูงใจ และดูแลให้เด็ก ๆ ตระหนักถึงความรอดของวิญญาณของเพื่อน ๆ และบุคคลทั่วไป และช่วยพวกเขาให้ทำหน้าที่ธรรมทูตช่วยวิญญาณผู้อื่นด้วยความยินดี
ผู้เป็นชุมพาบาล
ผู้ที่มีบทบาทมากกว่าครูธรรมดา แต่ต้องเป็นผู้ดูแลเด็ก ๆ ในนามของพระศาสนจักร เพราะเขาได้รับหน้าที่รับผิดชอบจากพระสังฆราช และคุณพ่อเจ้าวัดในการทำหน้าที่นี้
เป็นพ่อแม่คนที่สอง
ให้ความสนใจเป็นพิเศษกับเด็กๆที่มีภูมิหลังที่ลำบาก และดูแลช่วยเด็กๆทุกคน ให้พัฒนาเติบโตในแบบอย่างของพระคริสตเจ้า
การเป็นประจักษ์พยาน
ส่งเสริมสนับสนุนให้เด็กๆได้มีชีวิตที่เป็นประจักษ์พยานในความรักต่อพระเยซูเจ้า
นำเด็กเข้าหาพระเยซูเจ้า
ทำหน้าที่ตามคำสอนของพระเยซูเจ้าที่ว่า “ปล่อยเด็กๆมาหาเราเถิด” หน้าที่ที่จะต้องเชิญชวนแด็กๆให้มาหาพระเยซูเจ้า และปกป้องเด็กๆจากอันตรายหรืออิทธิพลอื่นๆที่จะชักจูงเด็กให้หันเหออกจากพระเจ้า
ส่งเสริมกระแสเรียก
อันเดรนำเปโตรมาพบพระเยซูเจ้า เช่นเดียวกันผู้นำควรที่จะนำเด็กๆให้ค้นพบกระแสเรียกของพวกเขา ซึ่งบางคนอาจจะเป็นพระสงฆ์ นักบวช บราเดอร์ ซิสเตอร์ก็ได้