สัมมนาผู้ร่วมงานประกาศข่าวดี ระดับชาติ ครั้งที่ 1
โอกาสฉลอง 350 ปีมิสซังสยาม
เรื่อง การประกาศข่าวดีในพระศาสนจักรไทย
วันที่ 5-6 ตุลาคม 2019 ห้องประชุม ยวง นิตโย บ้านผู้หว่าน สามพราน
สภาพระสังฆราชฯ โดย คณะกรรมาธิการฝ่ายธรรมทูตและการศึกษาคาทอลิก ได้จัดสัมมนาผู้ร่วมงานประกาศข่าวดี เรื่อง การประกาศข่าวดีในพระศาสนจักรไทย เมื่อวันที่ 5-6 ตุลาคม 2019 ห้องประชุม ยวง นิตโย บ้านผู้หว่าน สามพราน มีผู้เข้าร่วมสัมมนา 120 ท่าน ประกอบด้วย พระสังฆราช 2 ท่าน พระสงฆ์ นักบวช และฆราวาสผู้ร่วมงานประกาศข่าวดีจาก 10 สังฆมณฑล จำนวน 100 ท่าน และวิทยากร 18 ท่าน
จุดประสงค์ของการจัดสัมมนาในครั้งนี้ มี 2 ประการ คือ
1. เสริมสร้างแรงบันดาลใจและสืบสานงานจากบรรดาธรรมทูตที่ได้ประกาศความเชื่อถึงพระเจ้าให้กับปวงชนชาวไทยตลอด 350 ปีที่ผ่านมา
2. เพื่อให้ผู้ที่ขับเคลื่อนงานประกาศข่าวดีสู่ปวงชนได้มาพบปะกัน แลกเปลี่ยนเรียนรู้ เสริมสร้างแรงบันดาลใจ สร้างเครือข่ายในการทำงาน และหาแนวทางในการทำงานประกาศข่าวดีที่เหมาะสมกับบริบทของแต่ละสังฆมณฑล
เริ่มต้นการสัมมนาด้วยวจนพิธีกรรมเปิด โดย บาดหลวงสมเกียรติ บุญอนันตบุตร และกล่าวต้อนรับและชี้แจงวัตถุประสงค์ โดย บาดหลวงวัชศิลป์ กฤษเจริญ
ในช่วงแรกของการสัมมนา บาดหลวงวัชศิลป์ กฤษเจริญ เป็นวิทยากรให้ความรู้เกี่ยวกับบทเรียน 10 ประการจากสมณลิขิต Maximum Illud พันธกิจที่ยิ่งใหญ่ของพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 15 ดังนี้ คือ
1. สงครามคือการทำลายตัวเองของการประกาศข่าวดี
2. การทำงานแบบต่างคนต่างทำทำให้พลังการประกาศข่าวดีลดน้อยลง
3. ยึดพระบัญชาของพระเยซูที่ให้เราออกไปประกาศข่าวดีเป็นหลัก
4. ดูแบบอย่างความร้อนรนและการอุทิศตนของบรรดามรณะสักขีและนักบุญธรรมทูต
5. คน ๆ เดียวก็ทำให้คนรู้จักพระเยซูเจ้าได้จำนวนมาก (นักบุญฟรังซิสเซเวียร์)
6. ทำงานเพื่อพระเจ้ามิใช่ทำเพื่อผลประโยชน์ทางโลก
7. ต้องมีชีวิตฝ่ายจิตที่เข้มแข็ง- คนชื่นชมคนดีมากกว่าคนเก่ง
8. ฆราวาสมีความสำคัญมาก
9. ต้องมีหน่วยงานที่รับผิดชอบและร่วมมือกัน
10. พระแม่มารีย์เป็นดวงดาราแห่งการประกาศข่าวดี
ในช่วงที่สองของการสัมมนา บาดหลวงธีรพล กอบวิทยา เป็นวิทยากรให้ความรู้ในเรื่อง บทเรียนจากประวัติศาสตร์ 350 ปี มิสซังสยาม
และในช่วงที่สาม ซึ่งเป็นช่วงสุดท้ายของการสัมมนาในวันแรกนี้ เป็นการแบ่งปันการประกาศข่าวดีในบริบทต่าง ๆ ดังนี้
-การประกาศข่าวดีในสลัมกับคนชายขอบสังคม
โดย บาดหลวงอเล็กซานโดร ไบร์
-การประกาศข่าวดีด้วยการส่งเสริมชีวิตครอบครัว
โดย คุณสายชล ศีติสาร และ คุณพจนา ศีติสาร
-การประกาศข่าวดีกับพี่น้องต่างความเชื่อ
โดย บาดหลวงสิทธิโชค แสวงกาญจน์
- การประกาศข่าวดีในสถานที่ทำงาน
โดย คุณนิรมล สุขวัฒนางกูร
-การประกาศข่าวดีด้วยการเยี่ยมเยียนผู้ป่วย
โดย คุณเมธา เหลืองรุ่งนภา
-การประกาศข่าวดีท่ามกลางคนยากจน
โดย คุณนันทพิมพ์ กิจนิจชีวะ
-การประกาศข่าวดีกับผู้พิการทางการได้ยิน
โดย คุณณรงค์ ถนอมเล็ก
-การประกาศข่าวดีกับคนพิการซ้ำซ้อน
โดย คุณมโนรัตน์ เติมนาค
-การประกาศข่าวดีกับผู้ถูกจองจำ
โดย ซิสเตอร์ขวัญเรียม เพียรรักษา
-การประกาศข่าวดีกับบุคคลระดับผู้นำ
โดย คุณศรินทร เมธีวัชรานนท์
-การประกาศข่าวดีในโรงเรียน
โดย คุณกมลา สุริยพงศ์ประไพ
-การประกาศข่าวดีกับเด็กและเยาวชน
โดย คุณจตุพล แก้วมีศรี
-การประกาศข่าวดีกับผู้ใหญ่
โดย คุณกฤติยา อุตสาหะ
-การประกาศข่าวดีกับกลุ่มชาติพันธ์ุ
โดย เจ้าหน้าที่ของสังฆมณฑลเชียงใหม่
-การประกาศข่าวดีด้วยการใช้เครื่องมือสื่อสารมวลชน
โดย บาดหลวงอนุชา ไชยเดช
การสัมมนาในวันที่ 6 ตุลาคม 2019 เริ่มต้นจากการแบ่งปันพระวาจาและอาหารเช้า หลังจากนั้น ในช่วงแรกเป็นการประชุมกลุ่มของแตะละสังฆมณฑล หาแนวปฏิบัติที่เหมาะสมกับเขตปกครองของแต่ละสังฆมณฑล และในช่วงที่สองเป็นการนำเสนอแนวคิดเรื่องการประกาศข่าวดีของแต่ละสังฆมณฑลและปิดการสัมมนาด้วยพิธีบูชาขอบพระคุณ โดย พระสังฆราชยอแซฟ ชูศักดิ์ สิริสุทธิ์ ประธานกรรมธิการฝ่ายธรรมทูตและการศึกษาคาทอลิก
และในโอกาสนี้ บาดหลวงวัชศิลป์ กฤษเจริญ ผู้อำนวยการสมณองค์กรสนับสนุนงานแพร่ธรรมประเทศไทย ได้ขอบคุณผู้อำนวยการ PMS และผู้ช่วยพระสังฆราชฝ่ายธรรมทูตทุกท่าน ที่ได้มาร่วมสัมมนาผู้ร่วมงานประกาศข่าวดีในครั้งนี้ และได้กล่าวสรุปว่า การแบ่งปันการประกาศข่าวดีในบริบทต่าง ๆ (Best practice) ที่ได้นำเสนอแสดงให้เห็นว่างานประกาศข่าวดีทำได้ในทุกบริบทของชีวิต คน ๆ เดียวสามารถประกาศข่าวดีแห่งความรักของพระเจ้าโดยนำความรักไปมอบให้บุคคลเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนระดับสังฆมณฑล หน่วยงาน องค์กร มีส่วนอย่างมากในการวางนโยบาย ดำเนินการ สนับสนุน ประสานงาน ให้ทุกกิจการของพระศาสนจักรเป็นการประกาศข่าวดี
สิ่งที่สำคัญ การแบ่งปันการประกาศข่าวดีในแต่ละบริบทที่ผู้ประกาศข่าวดีแต่ละคนนำเสนอนั้น เมื่อได้รับฟังแล้ว ขอให้แต่สังฆมณฑล นำไปต่อยอดหรือทำให้แพร่ขยายต่อไป เช่น การเยี่ยมเยือนผู้ป่วย การประกาศในสถานที่ทำงาน การประกาศข่าวดีกับ คนพิการประเภทต่าง ๆ การประกาศข่าวดีในเรือนจำ การประกาศข่าวดีกับเด็ก เยาวชน ผู้ใหญ่ และการใช้สื่อต่าง ๆ ฯลฯ ถ้ามีแล้ว ขอให้ทำให้ดียิ่งขึ้น ถ้ายังไม่มีขอให้นำไปเริ่มทำในแต่ละสังฆมณฑล ซึ่งมีประโยคที่มักได้ยินบ่อย ๆ คือ เรารู้แล้ว เราทำแล้ว เรามีแล้ว ซึ่งนับว่าดี ก็ขอให้ริเริ่มทำในรูปแบบใหม่ ๆ เพื่อเป็น Best practice ของแต่ละสังฆมณฑล เพื่อให้คริสตชนแต่ละคนเป็นศิษย์ธรรมทูต เป็นเชื้อแป้งให้คนอื่นต่อไป