ความทุกข์ทรมานเพื่อความรักของหัวใจที่เปิดกว้าง
ไม่นานหลังจากวางรากฐานขององค์กรเผยแพร่ความเชื่อแล้ว เปาลีนได้ตั้งสมาคมสายประคำทรงชีวิต ซึ่งใช้วิธีเดียวกันคือในรูปแบบของ “วงกลม” ซึ่งจะออกไปสู่การตั้งกลุ่มใหม่ มีโครงการอื่นอีกคือเพื่อช่วยคนงานที่ยากจน เป็นเหตุให้เปาลีนตกอยู่ในภาวะของการเป็นหนี้ ส่วนหนึ่งนั้นมาจากการกระทำที่ไร้ยางอายของผู้ที่เกี่ยวข้องจากความพยายามของเธอ (ด้วยการเอาเงินที่เธอให้ไปพัฒนาหมู่บ้านไปใช้และหลอกเธอทุกอย่าง) ถึงอย่างไรเธอก็สวดภาวนาว่า “ข้าแต่พระเจ้าของลูก โปรดทรงยกโทษให้พวกเขา โปรดทรงอวยพระพรแก่พวกเขาในระดับที่พวกเขาได้แสดงให้ลูกได้รับความทุกข์ทรมาน”
คุณพ่อยอห์น เวียนเนย์ เจ้าอาวาสผู้ศักดิ์สิทธิ์ ผู้ซึ่งเป็นวิญญาณรักษ์ของเธอหลายปี ได้กล่าวสรรเสริญเปาลีนในที่สาธารณะว่า “พ่อรู้จักบางคนที่รู้ว่าจะยอมรับกางเขนอย่างไร เป็นกางเขนที่หนักและรู้ว่าจะแบกด้วยความรักอย่างไร ผู้นั้นคือ คุณจาริโค”
คุณพ่อชาร์ล โคลเลน ซึ่งเป็นนักเขียน ได้เขียนในประวัติเกี่ยวกับเธอว่า “เทวศาสตร์แห่งไม้กางเขนปรากฏว่ามีชีวิตชีวาสำหรับเธอ... ยิ่งทียิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเธอพิสูจน์ให้เห็นในดวงพระหฤทัยอันศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้า พระบุตรของพระเจ้าผู้ทรงรับสภาพมนุษย์ ด้วยความรัก ความทุกข์ทรมานและเพื่อไถ่โทษบาป”
เปาลีนสิ้นใจในวันที่ 9 มกราคม 1862 ได้พบบทภาวนาที่เธอเขียนด้วยลายมือของเธอเอง หลังจากเธอสิ้นใจไปแล้ว บทภาวนานั้นลงท้ายว่า “ข้าแต่พระนางมารีย์ พระมารดาของลูก ลูกเป็นของพระแม่”
ในปี 1963 คือหลังจากที่เธอสิ้นชีวิตได้ 100 ปี สมเด็จพระสันตะปาปายอห์นที่ 23 ได้ทรงลงนามในพระราชกฤษฏีกา ที่ประกาศถึงคุณธรรมของเปาลี จารีโค ประกาศให้เธอเป็น “ที่เคารพ” ซึ่งจะก่อให้เกิดการประกาศเป็นผู้ทรงบุญราศี และการตั้งเป็นนักบุญต่อไป