“ใจที่เร่าร้อนเป็นไฟ เท้าต้องก้าวเดินไป" (เทียบ ลก 24:13-35) ....สารวันแพร่ธรรม ปี 2023....

วันที่ 22 ตุลาคม 2019
วันอังคาร สัปดาห์ที่ 29 เทศกาลธรรมดา
นักบุญยอห์น ปอล ที่ 2
รม 5:12,15ข,17-19,20ข-21  สดด 40:7-10,17  ลก 12:35-38

    บทอ่านที่หนึ่งในวันนี้ เป็นจดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวโรม มีใจความเกี่ยวกับ มนุษย์จำเป็นต้องได้รับการไถ่บาป เพราะความบาปผิดทำให้สัมพันธภาพระหว่างมนุษย์กับพระเจ้ามีมลทิน การไถ่บาปนั้นมาจากพระเจ้า ผ่านทางความเชื่อในพระคริสตเยซู ไม่ใช่ได้รับจากพิธีเข้าสุหนัต


    ถ้าหากคนใดคนหนึ่งทำลายมิตรภาพ ทำให้เพื่อนต้องเจ็บช้ำน้ำใจ ความผิดปกติย่อมเกิดขึ้นในจิตใจของเขา จำเป็นต้องเกิดการคืนดี อาจด้วยการกลับไปสวมกอดอีกครั้ง และยอมรับการขอโทษ เปาโล กล่าวว่า การไถ่บาป คือ ความรู้สึกถึงสถานะการดำรงอยู่ในสันติกับพระเจ้า แต่คนที่กลับคืนดีสู่มิตรภาพนั้น จำเป็นต้องมีคนใดคนหนึ่งเป็นตัวกลางระหว่างสองฝ่าย โดยบอกกับฝ่ายที่รู้สึกผิดว่า อีกฝ่ายไม่สามารถทนต่อความขุ่นข้องหมองใจเช่นนี้ได้อีกต่อไป และกำลังรอคอยให้เปิดใจ เมื่อการคืนดีสำเร็จไป ความสัมพันธ์จะกลับแข็งแรงยิ่งขึ้น และความชื่นชมยินดีจะเกิดขึ้นมากกว่าแต่ก่อน เปาโลกำลังพูดถึง ตัวกลาง นั่นก็คือ พระเยซูเจ้า ที่ได้รับความอัปยศอดสูและความเจ็บปวดทรมาน ทำให้เราพบ เชื่อ และไว้วางใจในความดีของพระบิดา

    เหตุการณ์ในประวัติศาสตร์เกี่ยวกับการสิ้นพระชนม์ของพระเยซูเจ้านั้นมีความหมายทางเทววิทยา คือ การรับความเจ็บปวดทรมานแทนเรา คือ พระเยซูเจ้ายอมตายเพื่อเรา แทนที่เรา แทนที่มนุษย์ทุกคน เพื่อเราจะได้หันกลับไปหาพระเจ้า หรือกล่าวอีกอย่างหนึ่งก็คือ พระเยซูเจ้ายอมรับพันธกิจการเป็นตัวกลาง ทั้งนี้ พระเยซูเจ้าไม่ได้สละชีวิต เพราะเราเป็นชาวยิวหรือชาวกรีก ทาสหรือไท มีการศึกษาหรือไม่มี รวยหรือจน ชายหรือหญิง แต่คนบาปทุกคนจำเป็นต้องได้รับการอภัย และพระพรนี้ได้รับการแจกจ่ายอย่างทั่วถึงทุกคน สิ่งที่พระเจ้าทรงพอพระทัยมากที่สุด คือ ไม่มีการลงโทษมนุษย์ แต่ประทานพระเมตตาอย่างที่สุด

    พระเยซูเจ้าทรงเป็นผู้ปลดปล่อยเราให้เป็นอิสระ ผ่านทางพระองค์ ด้วยการไถ่บาปของเราและนำชีวิตนิรันดรมาสู่ทุกคน พระเยซูเจ้าทรงเป็น อาดัมคนที่สอง เมื่ออาดัม มนุษย์คนแรกไม่ศรัทธาต่อพระผู้สร้าง โดยการไม่เชื่อฟัง และทำลายสัมพันธภาพระหว่างมนุษย์กับพระเจ้า แต่พระเยซูเจ้าทรงเป็น อาดัมใหม่ ผู้ที่เชื่อฟังอย่างสัตย์ซื่อและสมบูรณ์แบบ โดยมอบชีวิตของพระองค์เอง เพื่อไถ่กู้สัมพันธภาพระหว่างมนุษย์กับพระเจ้ากลับคืนมา

    ส่วนให้พระวรสารมีแก่นของเรื่องคือ การเสด็จมาครั้งที่สองขององค์พระผู้เป็นเจ้าในพระสิริรุ่งโรจน์ เพื่อพิพากษาทั้งผู้เป็นและผู้ตาย ดังที่เราสวดบท ข้าพเจ้าเชื่อ แท้จริงแล้ว ในสายพระเนตรขององค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงกำลังรอคอยการตอบสนองของเราด้วยบัญญัติแห่งความรัก ส่วนเราก็กำลังรอคอยที่จะได้พบพระเจ้าแบบหน้าต่อหน้า เราต้องมีความเข้มแข็งอดทนที่จะรอคอยพระสัญญา ซึ่งมีความสำคัญต่อการตระหนักรู้ถึงช่วงเวลาที่เรามีชีวิตอยู่ ด้วยการดำเนินชีวิตอย่างดี แสวงหาและทำตามพระประสงค์ของพระเจ้า เพื่อวันหนึ่ง เราจะได้กลับสู่บ้านแท้ จงเตรียมพร้อมตั้งแต่ตอนนี้

>>>>DOWNLOAD<<<<

ผู้อํานวยการ PMS ประเทศไทย

คุณพ่อเปาโล ไตรรงค์  มุลตรี ผู้อํานวยการ สมณองค์กรสนับสนุนงานแพร่ธรรม (PMS)ประเทศไทย
คุณพ่อเปาโล ไตรรงค์  มุลตรี
ผู้อํานวยการ
สมณองค์กรสนับสนุนงานแพร่ธรรม
(PMS)ประเทศไทย


LINKS

www.ppoomm.v

http://www.catholicmission.org.au/http://www.missionsocieties.ca/www.pms-phil.orgwww.missio.org.mthttp://www.obrasmisionalespontificias.es/คณะธรรมทูตไทย

สถิติการเยี่ยมชม

14530412
Today
Yesterday
This Week
This Month
All days
83
319
775
7007
14530412
Your IP: 18.222.125.171
2024-04-24 09:12