“ใจที่เร่าร้อนเป็นไฟ เท้าต้องก้าวเดินไป" (เทียบ ลก 24:13-35) ....สารวันแพร่ธรรม ปี 2023....

วันที่ 18 ตุลาคม 2019
วันศุกร์ สัปดาห์ที่ 28 เทศกาลธรรมดา
ฉลองนักบุญลูกา
2 ทธ 4:10-17ข สดด 145:10-13, 17-18 ลก 10:1-9

    ในวันฉลองนักบุญลูกา เราได้ฟังข้อความในจดหมายของนักบุญเปาโล เขียนถึงธรรมทูตที่เขาไว้วางใจ คือ ทิโมธี เปาโลได้ระบายความในใจว่า ไม่มีใครเดินทางร่วมกับเขาเลย ยกเว้นลูกา เรื่องราวของลูกาในการเดินทางของเปาโลปรากฏอยู่ในหนังสือกิจการอัครสาวก ลูกาเริ่มดำเนินงานประกาศข่าวดีกับเปาโล โดยผ่านทางทักษะการเล่าเรื่องของเขา เชิญชวนให้คนอ่านเกี่ยวกับการเดินทางของธรรมทูต
    นักบุญลูกาได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับตัวของเขาเองตั้งแต่ตอนต้นในพระวรสารตามคำบอกเล่าของเขา     ในอารัมภบท ลูกาบอกกับผู้อ่านว่า เขาไม่ใช่พยานรู้เห็นในเหตุการณ์ เขาเป็นผู้นิพนธ์พระวรสารผู้ซึ่งอยู่ในชุมนุมคริสตชนที่ถือกำเนิดขึ้น ขอบคุณพยานรู้เห็นและได้รับฟังการเทศน์สอนของพระเยซูเจ้า


    ทั้งมัทธิว (10:1) มาระโก (6:7) และลูกา (9:1) ต่างก็เล่าถึง การเรียกศิษย์สิบสองคน หลังการได้รับการเทศน์   สั่งสอนจากพระเยซูเจ้า พระองค์ได้ส่งศิษย์ออกไปทำพันธกิจประกาศข่าวดี มีแต่ลูกาเท่านั้นที่เล่าว่า ต่อมาพระเยซูเจ้าทรงจัดตั้งกลุ่มศิษย์ที่ใหญ่ขึ้นคือเจ็ดสิบสองคน ดังเรื่องราวในพระวรสารวันนี้ ตามคำบอกเล่าของลูกา มีธรรมทูตมากกว่าสิบสองคนในงานประกาศข่าวดีในช่วงแรกๆ ครั้นพระเยซูเจ้าทรงพระดำเนินไปยังกรุงเยรูซาเล็ม (ดู ลก 9:51) พระองค์ทรงส่งศิษย์เจ็ดสิบสองคนไปล่วงหน้า เพื่อเตรียมทางรับเสด็จ เมื่อทรงพระดำเนินถึงเมืองต่างๆ การส่งศิษย์เจ็ดสิบสองคนนี้เป็นรูปแบบพันธกิจของธรรมทูต ดังนั้น ศิษย์ธรรมทูตของพระเยซูเจ้าจึงถูกส่งไปทำงานท่ามกลางคนทั้งหลาย

    สำหรับลูกาแล้ว การประกาศเรื่องความยิ่งใหญ่ของพระอาณาจักรนั้นไม่สำคัญเท่าเรื่องพระอาณาจักรใกล้      เข้ามาแล้ว ลูกาผู้นิพนธ์พระวรสารเขียนเรื่องราวในประวัติศาสตร์ด้วยพยานรู้เห็นถึงการกลับคืนพระชนมชีพ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สำคัญ กล่าวคือ ทุกคนได้รับโอกาสที่จะได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในอาณาจักรของพระเจ้า

    วิธีการ ลักษณะ และมุมมองของงานธรรมทูตที่ดำเนินการโดยศิษย์ทั้งเจ็ดสิบสองคนนั้นมีความคล้ายคลึงกับ  อัครสาวกสิบสองคน คำสอนที่สำคัญของพระเยซูเจ้าเกี่ยวกับงานธรรมทูต เช่น “ข้าวที่จะเก็บเกี่ยวมีมาก แต่คนงาน     มีน้อย จงวอนขอเจ้าของนาให้ส่งคนงานมาเก็บเกี่ยวข้าวของพระองค์เถิด” “การอธิษฐานภาวนาเป็นจิตวิญญาณของพันธกิจ” เป็นต้น พระสันตะปาปาฟรันซิสได้เขียนจดหมายถึงพระคาร์ดินัลฟิโลนี ลงวันที่ 22 ตุลาคม 2017 มีใจความว่า “พระเจ้าเป็นเจ้านายแห่งการเก็บเกี่ยวผล ด้วยความคิดริเริ่ม พระองค์ทรงเรียกและส่งคนงานออกไป เป็นการดีที่จะร่วมอธิษฐานภาวนากับพระเยซูเจ้าต่อพระบิดา ซึ่งจะแสดงให้เห็นถึงการมอบตนเองไว้ในมือของผู้คนทั้งหลาย เราส่งท่านไปเหมือนเกาะท่ามกลางฝูงสุนัขป่า” ธรรมทูตทั้งหลายต้องไม่ใช้อำนาจ หรือความรุนแรงใดๆ แต่พวกเขาต้องมีความเชื่อความศรัทธาที่แก่กล้า และการอธิษฐานภาวนาจะช่วยให้พวกเขาสนิทสัมพันธ์กับด้วยความรักของพระเยซูเจ้า ผู้เป็นเจ้านายที่ส่งพวกเขาออกไป

    ความขัดสนในช่วงเริ่มต้นกลับกลายเป็นรากฐานและเครื่องหมายแห่งเสรีภาพและการอุทิศตนเต็มรูปแบบให้กับหน้าที่ เป็นอิสระจากอุปสรรคขัดขวางหรือความล่าช้าใดๆ พฤติกรรมของพวกเราเหล่าธรรมทูตจะมีผลต่อการตอบรับของผู้คน เพราะเกิดความไว้วางใจ การทักทายที่แท้จริง คือการทักทายที่นำความชื่นชมยินดีและความสุข คือ สันติสุขที่มาจากความรอดพ้น ดังนั้น ธรรมทูตต้องเปิดตัวให้เห็นถึงความมีชีวิตชีวาของพวกเขา ทั้งยอมรับความเสี่ยงทุกอย่าง  ไม่ว่าจะได้รับการต้อนรับหรือปฏิเสธ ประสบความสำเร็จหรือล้มเหลว ธรรมทูตจะได้รับความเอื้ออาทรหรือไม่นั้นขึ้นกับผู้คนที่ได้รับสารของเรา อย่างไรก็ตาม ไม่มีสิ่งใดที่จะหยุดพันธกิจของเราได้ เพราะเราธรรมทูตจำเป็นต้องเปิดเผยหนทางแห่งความรอดพ้น ทุกคนต้องได้รับรู้ถึงข่าวดีนี้

>>>>DOWNLOAD<<<<

ผู้อํานวยการ PMS ประเทศไทย

คุณพ่อเปาโล ไตรรงค์  มุลตรี ผู้อํานวยการ สมณองค์กรสนับสนุนงานแพร่ธรรม (PMS)ประเทศไทย
คุณพ่อเปาโล ไตรรงค์  มุลตรี
ผู้อํานวยการ
สมณองค์กรสนับสนุนงานแพร่ธรรม
(PMS)ประเทศไทย


LINKS

www.ppoomm.v

http://www.catholicmission.org.au/http://www.missionsocieties.ca/www.pms-phil.orgwww.missio.org.mthttp://www.obrasmisionalespontificias.es/คณะธรรมทูตไทย

สถิติการเยี่ยมชม

14531535
Today
Yesterday
This Week
This Month
All days
797
409
1898
8130
14531535
Your IP: 3.144.243.184
2024-04-25 22:28